กลุ่มผู้ผลิตผ้าห่มนวมขู่รวมตัวปิดถนนเหตุหนี้ท่วมหัวรัฐเบี้ยวไม่ยอมรับซื้อ

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผ้าห่มกันหนาว 15 จว.อีสานขู่ปิดถนนมิตรภาพประท้วงหลังยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากนายกฯแต่ไร้คำตอบ ระบุรัฐบาลส่งเสริมให้ผลิตจนท่วมโกดัง 2 ล้านกว่าผืน แต่รัฐกลับไม่ยอมสั่งซื้อเหมือนปีที่ผ่านมา ยันกลุ่มฯได้กู้หนี้มาลงทุนแล้ว กว่า 230 ล้าน ชี้ชัดรัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวโคราชฟอรั่มออนไลน์รายงานว่า เร็วๆนี้ ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผ้าห่มนวมชุมชน ตำบลรังกาใหญ่ อ.พิมายจ.นครราชสีมา กลุ่มวิสาหกิจผู้ผลิตผ้าห่มนวม15จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 20 คนนำโดยนางละม่อม ฉายพิมายประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชุนตำบลรังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา และนายศราวิทย์ เชื้อจันอัด คณะกรรมการกลุ่มแปรรูปผ้าและวัสดุใยสังเคราะห์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือได้ร่วมกันชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการซื้อผ้าห่มนวมที่ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 15 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ผลิตไว้จำนวนกว่า2ล้านผืนเพื่อรอให้ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทำการจัดซื้อนำไปช่วยเหลือแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ประสบภัยหนาวหลังจากที่มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยหนาวทั่วประเทศจำนวน35 จังหวัด
นางละม่อม ฉายพิมาย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชุนตำบลรังกาใหญ่ อ.พิมาย และพวกนำผ้าห่มนวมกันหนาวมาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดูว่าทางกลุ่มฯรวมกันไปกู้ยืมเงินสถาบันการเงินมาผลิตผ้าห่มนวมกันหนาวเพื่อส่งให้ กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จนเป็นหนี้สินแต่สุดท้ายทางกรมป้องกันฯ ก็ไม่สั่งซื้อตามข้อตกลง
โดยก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี2546เป็นต้นมาทางรัฐบาลโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะมีการจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนภายภาคตะวันออกเฉียงจำนวน15จังหวัดเป็นประจำทุกปีแต่มาปีนี้ทั้งๆที่มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยหนาวถึง35จังหวัดและทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทั้ง15จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เร่งทำการผลิตผ้าห่มนวมเตรียมไว้รอการจัดซื้อจากทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจำนวนกว่า 2 ล้านกว่าผืน แต่กลับไม่มีการสั่งจัดซื้อผ้าห่มจากทางวิสาหกิจชุมชนแม้แต่ผืนเดียว ส่งผลให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผ้าห่มนวมต้องได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากต้องไปกู้สินเชื่อค่าวัตถุดิบมาผลิตผ้าห่มนวมรวมแล้ว 15 จังหวัดมากกว่า 230 ล้านบาท
เพราะทางกลุ่มฯต้องผลิตผ้าห่มเตรียมไว้เพื่อให้เมื่อได้มีการประสานจัดซื้อมาจะได้มีผ้าห่มไว้ส่งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทันที ซึ่งทุกๆปีที่ผ่านมาทางกลุ่มก็จะปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำ โดยก่อนหน้านี้ในวันที่1ก.พ.2553ที่ผ่านมาทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผ้าห่มนวม15จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รวมตัวกันไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลให้ช่วยเหลือแล้วแต่มาจนถึงวันนี้กลับยังไม่มีคำตอบใดๆจากทางรัฐบาลดังนั้นทางกลุ่มจึงขอยื่นคำขาดที่จะรอฟังคำตอบถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลภายในวันที่ 15 ก.พ.2553 ซึ่งหากรัฐบาลยังคงเพิกเฉยไม่มีการดำเนินการดๆ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผ้านวม 15 จังหวัดจะรวมตัวกันปิดถนนบริเวณ 3 แยกตลาดแค อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งถนนมิตรภาพบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางเชื่อมจากจ.นครราชสีมาไปยังจ.ขอนแก่นและจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อกดดันให้ทางรัฐบาลเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือและจะไม่เปิดถนนให้รถสัญจรไปมาได้จนกว่ารัฐบาลจะมาแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านอย่างเป็นรูปธรรม
ผ้าหม่นวมกันหนาวในโกดังที่เหลือค้างเนื่องจากฤดูหนาวที่ผ่านมากรมป้องกันฯไม่ได้รับซื้อจากกลุ่มผู้ผลิตทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้มีมติข้อตกลงกันแล้ว
ด้านนายศราวิทย์ เชื้อจันอัด อายุ 37 ปีคณะกรรมการกลุ่มแปรรูปผ้าและวัสดุใยสังเคราะห์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ กล่าวว่าสาเหตุที่ตนได้มาร้องเรียนเรื่องผ้าห่มนวมที่ทางกลุ่มผู้ผลิตได้ผลิตในทุกๆปีเพื่อจำหน่ายให้กับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือปภ.ได้ทุกๆปี แต่ปีนี้ได้มีการประกาศภัยหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนและยังได้เป็นการประกาศภัยหนาวประชาชนในทุกๆจังหวัด แต่ในปีนี้ได้มีการสำรวจว่ามีผู้ประสบภัยหนาวแล้วประมาณกว่า3ล้านคนดังนั้นผ้าห่มนวมที่ชาวบ้านผลิตไว้ประมาณ2 ล้าน 2 หมื่นผืน ทั่วทั้งประเทศไม่ได้ถูกจำหน่ายหรือจ่ายแจกแต่อย่างใด ยังคงเก็บไว้ในโกดังของแต่ละกลุ่มเหมือนเดิม ชาวบ้านจึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือในด้านการจัดงบประมาณมาซื้อผ้าห่มเพื่อช่วย
ภัยหนาวในทุกๆปี โดยเดิมทีรัฐบาลได้จัดงบไว้ละจังหวัดละ 50 ล้านบาท เพื่อมาซื้อผ้าห่มที่ชาวบ้านได้ผลิตไว้ตามที่รัฐบาลได้มีข้อตกลงไว้
ซึ่งปัจจุบันกลุ่มชาวบ้านที่ผลิตผ้าห่มนวมต้องไปกู้เงินธนาคารเพื่อมาผลิตผ้าห่มไม่ว่าจะเป็นผ้าห่มนวมและผ้าห่มแบบใยสังเคราะห์ที่ตกราคาต้นทุนอยู่ที่ประมาณผืนละ100-120บาทซึ่งในแต่ละกลุ่มจะผลิตไว้ตามที่รัฐได้มีการสั่งไว้ล้วงหน้าในทุกๆปี ประมาณกลุ่มละ 7 พัน 5 ร้อยผืน คิดเป็นเงินที่ต้องเป็นหนี้กับธนาคารกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งทางกลุ่มผู้ผลิตผ้าห่มนวมได้มีการยื่นหนังสือให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 1 กุมาพันธ์2553ที่ผ่านมา แต่จนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่นอน ว่าจะมีการเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใดจึงอยากจะแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ทราบว่าทางกลุ่มผู้ผลิตไม่ได้มีเงินสดในการซื้อวัตถุดิบมาผลิตต้องหยิบยืมจากธนาคารมาทุกบาท แต่บางส่วนต้องไปกู้เงินนอกระบบบางรายดอกเบี้ยก็สูงถึงร้อยละ 20 ตนเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาเงินกู้หนี้นอกระบบรัฐบาลนั้นควรตรวจสอบที่รากหญ้าจริงๆและควรลงพื้นที่ในการตรวจสอบหาข้อมูลในแต่ละพื้นที่ว่ามีกลุ่มคนรากหญ้าที่ยังคงเป็นหนี้ที่มีจำนวนมากเช่นเดียวกัน
แต่หากกลุ่มผู้ผลิตผ้าห่มนวมได้ร้องเรียนถึงความลำบากรัฐบาลยังคงเพิกเฉย ตนและกลุ่มผู้ผลิตฯได้มีข้อเสนอที่เคยยื่นให้กับรัฐบาลได้ทราบแล้ว 3 ข้อ คือ 1.ขอให้รัฐบาลได้จัดงบประมาณเข้ามาจัดซื้อผ้าห่มตามที่เคยได้มีข้อตกลงกับทางกลุ่มฯไว้ว่าจะมีการจัดซื้อผ้าห่มในช่วงฤดูหนาวเพื่อนำไปช่วยผู้ประสพภัยหนาวในทุกพื้นที่2.หากรัฐบาลยังไม่มีงบในการจัดซื้อทาง
กลุ่มฯก็ต้องการให้รัฐจัดผู้แทนเข้ามาพูดคุยและหาข้อยุติในการจัดซื้อผ้าห่มพร้อมทั้งหาวิธีที่จะทำให้ชาวบ้านที่ผลิตผ้าห่มได้มีเงินนำไปใช้หนี้ค่าผ้าที่ชาวบ้านได้ซื้อ 3.หากภายในวันที่ 15 ก.พ.2553 รัฐบาลยังคงเพิกเฉยและไม่มีคำตอบว่าจะช่วยเหลือที่แน่ชัดทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชน15 จังหวัดก็จะรวมตัวกันปิดถนนบริเวณ 3 แยกตลาดแค อ.พิมาย จ .นครราชสีมา เพื่อกดดันให้รัฐบาลเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเพราะจำเป็นต้องนำเงินมาใช้หนี้ที่กู้ยืมไว้นายศราวิทย์ฯกล่าว
ความคิดเห็น (3 จำนวนโพส):
ผลที่เกิดขึ้นก็มาจาก สส.ต่างๆ นั่นแหละ
เราก็เห็นใจชาวบ้านเหมือนกัน
มีผู้มาสั่งเครื่องจากเราเยอะ เพราะเครื่อง
สามารถผลิตได้วัน 1000 ผืน
สุดท้าย ผลิตออกมาขายไม่ทันอีก
ผลที่เกิดขึ้นก็มาจาก สส.ต่างๆ นั่นแหละ
เราก็เห็นใจชาวบ้านเหมือนกัน
มีผู้มาสั่งเครื่องจากเราเยอะ เพราะเครื่อง
สามารถผลิตได้วัน 1000 ผืน
สุดท้าย ผลิตออกมาขายไม่ทันอีก
ปีนี้เอาใหม่ครับ กำลังใจ
โพสแสดงความเห็นของคุณ