หน้าแรก | การเมือง | โฆษก ทภ.2 ระบุจัดทีมขยายผลจับกลุ่มเกี่ยวพันอาวุธสงครามที่ขอนแก่น

โฆษก ทภ.2 ระบุจัดทีมขยายผลจับกลุ่มเกี่ยวพันอาวุธสงครามที่ขอนแก่น

image พันเอกชินกาจ รัตนจิตติ รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 โฆษกกองทัพภาคที่ 2

โฆษก ทภ.2 ระบุ จัดทีมขยายผลหลังจับชายฉกรรจ์และอาวุธสงครามที่ขอนแก่น พร้อมฟันทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน เผยระยะเวลาการควบคุมตัวแกนนำขึ้นอยู่กับคณะทำงานด้านกฎหมายเป็นผู้พิจารณา บางส่วนได้ปล่อยตัวกลับบ้านไปแล้ว

พันเอกชินกาจ  รัตนจิตติ รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 โฆษก กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารสามารถจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ พร้อมด้วย อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ได้ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการตรวจยึดอาวุธสงคารมดังกล่าวไว้ เพื่อทำการขยายผลถึงแหล่งที่มาของอาวุธดังกล่าว พร้อมทั้งได้มีการขยายผลไปยังผู้ที่ร่วมกระบวนการ จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่  ส่วนสามารถจับกุมผู้ที่ร่วมที่ซัดทอดได้นั้นทางกองทัพก็จะต้องขอปิดเป็นความ ลับ  เนื่องจากจะต้องทีการขยายผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง

ดัง นั้นหากมีการเปิดเผยข้อมูลไปก็อาจจะทำให้ผู้ที่ร่วมขบวนการนั้นหลบหนีการจับ กุมได้  ซึ่งตนยืนยันว่าการขยายผลไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ระบุว่า หากในพื้นที่ไหนที่มีอาวุธสงครามก็จะไม่มีความสงบสุข อีกทั้งปัญหาความรุนแรงก็จะตามมา ดังนั้นก็จำเป็นที่จะต้องมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกกวาดล้างอาวุธสงคารม ในทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง ป้องกันเพื่อไม่ให้มีการใช้อาวุธต่างๆ และเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองต่อไป


ส่วนในเรื่องการขยายผลจากซิมการ์ดที่มีการโทรศัพท์ติดต่อกันระหว่างกลุ่มชาย ฉกรรจ์และบุคคลอื่น ที่หลายฝ่ายคิดว่าจะเป็นกลุ่มทางการเมืองนั้น ตนยืนยันว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามหลักฐาน ส่วนที่จะไปกล่าวหาตามกลุ่มต่างๆ หรือบุคคลต่างๆ นั้นเป็นไปไม่ได้ ก็จะต้องเป็นไปตามข้อมูลหลักฐาน แต่เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการบังคับกฎหมายอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ก็เพื่อที่ต้องการคืนความสุขให้กับประชาชนโดยเร็วและอย่างยั่งยืน

พัน เอกชินกาจฯ กล่าวอีกว่า ส่วนระยะเวลาการควบคุมตัวแกนนำ กปปส.และนปช.ของพื้นที่ภาคอีสาน และจังหวัดนครราชสีมานั้น ขึ้นอยู่กับคณะทำงานด้านกฎหมายจะเป็นผู้พิจารณาระยะเวลาในการกักตัว โดยการพูดคุยสอบถามข้อมูลต่างๆ เพื่อทำการพิจารณาว่าใครที่ควรจะถูกกักตัวเพื่อทำการสอบสวนตัวเป็นระยะเวลา 1 วัน, 3 วัน, 5 วัน หรือ 1 สัปดาห์ ก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลจากคณะทำงานต่างๆ ที่จะมีการพิจารณา ซึ่งในเบื้องต้นก็ได้มีการปล่อยตัวกลับไปพักอยู่ที่บ้านของตนเอง  ซึ่งส่วนใหญ่ที่ได้กลับไปพักอยู่ที่บ้านก็จะเป็นผู้ที่ไม่มีความคิดในแนวทาง ในการ ปลุกระดม หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของมวลชน


แต่ อย่างไรก็ตามก็จะต้องมีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกันก่อนที่ปล่อยกลับไป ทั้งนี้ก็จะต้องขอความร่วมมือกับทุกๆคน เนื่องจากในช่วงนี้บ้านเมืองก็เป็นช่วงที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นก็ไม่ควรที่จะมีการสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมา อย่างนำเรื่องกล่าวมาเล่าใหม่ อย่ามีการยุยงปลุกปั่น ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน บุคคล หรือกระทั่งชุมชน ก็ขอความร่วมมือในการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยการช่วยกันเป็นหูเป็นตาแจ้งข่าวสารต่างๆ  ซึ่งกองทัพไม่ต้องการที่จะมีความขัดแย้งกับประชาชน แต่ต้องการที่จะให้ประเทศชาติมีความสงบสุขโดยเร็ว พันเอกชินกาจฯกล่าว

ส่งข่าวนี้ไปยัง: Digg this story Digg Facebook Share Facebook

ความคิดเห็น ( จำนวนโพส):

โพสแสดงความเห็นของคุณ comment
กรุณาใส่รหัสตามภาพที่เห็น:
หมวดหมู่
หัวข้อข่าวนี้ไม่ระบุหมวดหมู่
ให้คะแนนระดับความนิยม
5.00
ais adv