ป.ป.ท.3 โคราช เผยการตรวจโครงการโซลาร์เซลล์ พบแพงเกินจริงหลายแห่ง

นายนพดล เพชรสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 3 นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี การจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจโครงการจัดซื้อจัดจ้างระบบส่องสว่างพลังงานแสง อาทิตย์โซลาร์เซลล์

ป.ป.ท.3 โคราช เผยความคืบหน้าการตรวจโครงการจัดซื้อจัดจ้างระบบส่องสว่างพลังแสงอาทิตย์โซลาร์เซลล์ ของ อบต.ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคอีสาน พบข้อพิรุธแพงเกินจริงถึงต้นละ 1 แสนบาท แจงหากพบว่าพื้นที่ใดเข้าข่ายทุจริตพร้อมดำเนินการถึงที่สุดทั้งอาญาและวินัย

ผู้สื่อข่าวโคราชฟอรั่มออนไลน์รายงานว่า วันนี้(25ก.ย.57) นายนพดล  เพชรสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 3 นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี การจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจโครงการจัดซื้อจัดจ้างระบบส่องสว่างพลังงานแสง อาทิตย์โซลาร์เซลล์ ขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา , บุรีรัมย์ ,อุบลราชธานี และจังหวัดยโสธร ทั้งสิ้น 64 โครงการ ที่ได้มีการแบ่งออกเป็น 2 ทีม โดยแยกเป็น 1 ทีม ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา –บุรีรัมย์ และ อีก 1 ทีม ลงตรวจในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี – ยโสธร

โดยได้กำหนดระยะเวลาให้ออกตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2557 ที่ผ่าน และจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 26 กันยายน 2557ซึ่งขั้นตอนในการออกตรวจสอบ ตนได้กำชับให้ทั้ง 2 ทีม ทำการออกตรวจใน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย การตรวจทางกายภาพ คือการสังเกตการดำเนินการก่อสร้างและสถานที่ติดตั้งว่าเป็นไปตามกำหนดหรือ ไม่, การจัดซื้อจัดจ้างว่าบริษัทใดที่เป็นผู้ชนะในการเสนอราคา และราคาที่เสนอมานั้นเป็นมูลค่าเท่าไร, ในการจัดซื้อจัดการได้มีการบริษัทที่มาร่วมการเสนอราคาในการรับเหมากี่ บริษัทเพื่อหาการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของแต่ละแห่งว่ามีความสัมพันธ์กับ บุคคลในพื้นที่หรืออาจจะมีการเสนอบริษัทที่ซ้ำๆ กันเข้ามาเพื่อรับงาน

ซึ่ง ผลของการดำเนินการตรวจสอบแต่ละชุดที่ลงพื้นที่ได้รายงานเบื้องต้นว่า ยังคงพบว่าโครงการระบบส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์โซลาร์เซลล์ ในแต่ละแห่งยังคงเป็นราคาที่สูงกว่าปกติ โดยจะมีราคาเฉลี่ยวอยู่ที่หลัก 1 แสนบาทขึ้นไป ซึ่งแตกต่างจากการจัดซื้อจัดจ้างที่ อบต.หนองโสน อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ในราคาเพียง 42,000 บาท/ต้น  แต่อย่างไรก็ตามก็จะต้องรอรับการรายงานอย่างเป็นทางการจากชุดที่ออกตรวจสอบ อีกครั้งหนึ่ง  ซึ่งก็จะต้องส่งเรื่องเข้ามายัง สำนักงาน ป.ป.ท.เขต3 นครราชสีมา ไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2557 เพื่อทำการตรวจสอบและรวบรวมเอกสารทุกอย่างรายงานไปยัง เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.ไม่เกินเดือนพฤศจิกายน 2557

นายนพดลฯกล่าวว่าอีกว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ยังพบว่ามีปัญหาในการลงพื้นที่ทั้ง 4 จังหวัด คือเจ้าหน้าที่ของทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บางแห่งติดราชการไปสัมมนาต่างจังหวัด จึงทำให้ทีมที่เข้าตรวจสอบไม่สามารถที่จะดำเนินการตรวจสอบได้ทันที ซึ่งก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การตรวจสอบนั้นล่าช้าไป แต่อย่างไรก็ตามทาง ป.ป.ท.เขต3 ก็ได้รับความร่วมมือกับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาเป็นอย่างดี ทั้งนี้ตนก็ยังยืนยันว่าจะสามารถดำเนินการตรวจสอบได้แล้วเสร็จไม่เกินสิ้น เดือนกันยายนนี้แน่นอน

ซึ่ง หากการตรวจสอบแล้วพบว่าพื้นที่ใดมีความข้อมูลที่เข้าข่ายความผิด ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เขต 3 นครราชสีมา ก็จะต้องทำการตรวจสอบดูว่าผู้ที่กระทำผิดนั้นเป็นใคร และอยู่ในระดับอำนาจของ ป.ป.ท.ในการดำเนินการหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกอง หรือที่เรียกว่า ซี 7 ทาง ป.ป.ท.เขต3 ก็จะต้องสรุปสำนวนส่งไปยังเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เพื่อเสนอไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ท. ให้มีการรับไว้ในการทำสำนวนไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อลงโทษทั้งอาญาและวินัย แต่หากเป็นผู้ที่อยู่ในการดูแลรับผิดชอบของ ป.ป.ช.ทาง ป.ป..เขต3 นครราชสีมา ก็จะต้องรวบรวมสำนวนส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป