เกษตรกร อ.สูงเนิน โคราช หันมาปลูกพืชผักสวนครัว แทนการปลูกข้าวนาปรัง

หลังจากที่แผนการบริหารจัดการน้ำของหน่วยงานกรมชลประทานประกาศจะหยุดการจ่ายน้ำในแต่ละห้วงเวลาเพื่อประหยัดน้ำ ทำให้ เกษตรกรชาวนา อ.สูงเนิน โคราช ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกพื้ชผักใหม่ โดยหันมาปลูกพืชผักสวนครัวที่ใช้น้ำปริมาณน้อย แทนการปลูกข้าวนาปรัง เป็นรายได้เสริม

ผู้สื่อข่าวโคราชฟอรั่มออนไลน์รายงานว่า ภายหลังจากที่เขื่อนลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ได้มีการจัดส่งปริมาณน้ำออกจากเขื่อนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกข้าวนาปีที่จะถึงฤดูการเก็บเกี่ยว และการอุปโภคบริโภค ตามมติที่ประชุมของการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะจัดส่งปริมาณน้ำได้ไม่เกิน 10 ล้านลูกบาศก์เมตร จนถึงวันที่ 20 พ.ย.58 ก่อนที่จะหยุดการจ่ายน้ำเพื่อการทำการเกษตรทุกประเภท ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้(13พ.ย.58) เกษตรกรในพื้นที่บ้านกุดจิก หมู่ที่ 4  ตำบลจุดจิก  อำเภอ สูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา บางส่วนที่ได้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีไปแล้ว ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่จากนาข้าวหันมาปลูกพืชผักสวนครัว อาทิ โหระพา กระเพรา  มะเขือ และพริก ซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยในการเพาะปลูก และมีความต้องการของท้องตลาดเป็นจำนวนมาก อีกทั้งก็เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการหารายได้เสริมมาใช้จ่ายในครอบ ครัวในช่วงที่ไม่ได้มีการเพะปลูกข้าวนาปรัง หลังจากที่ทางชลประทานได้ประกาศแจ้งเตือนว่าจะไม่มีการจ่ายน้ำเพื่อทำนาปรัง และปลูกพืชฤดูแล้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2558 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2559 รวมระยะเวลา 7 เดือน

นางประจวบ  ถนอมพลกรัง อายุ 41 ปี เกษตรกรที่หันมาปลูกพืชผักสวนครัว กล่าวว่า เดิมทีตนเองนั้นจะการเพาะปลูกข้าวนาปี และหลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จก็จะมาปลูกข้าวนาปรังต่อ แต่เนื่องจากทางชลประทานจะไม่จ่ายน้ำมาให้เกษตรกรทำการปลูกข้าวนาปรัง ตนเองจำเป็นที่จะต้องหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยและเป็นพืชที่มีความต้องการของท้องตลาด เนื่องจากจะมีราคาที่สูงกว่าพืชชนิดอื่นๆ อย่างเช่น โหระพา จำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 80-90 บาท กระเพรา กิโลกรัมละ 50-60 บาท ทั้งนี้ก็เพื่อหารายได้เสริมช่วงที่ไม่ได้ทำการเพาะปลูกข้าวนาปรัง